-------------------------------------------------------------------------------------
ชื่อผู้แต่ง:
ชื่อเรื่อง:โอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝาน
สำนักพิมพ์:พิมพ์กะรัต
ชื่อเรื่อง:โอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝาน
สำนักพิมพ์:พิมพ์กะรัต
-------------------------------------------------------------------
เซี่ยว
ความกตัญูกตเวที
ตี้
ความรัก ความเกรงใจในสายเลือดเดียวกัน
จง
ความจงรักภักดีตอชาติศาสนกษัตริยซื่อสัตยตอผูบังคับบัญชา
รักษาหนาที่ และความรับผิดชอบไวดวยชีวิต
ซิ่น
ความมีสัจจะทั้งกาย วาจา ใจ ความมั่นใจที่จะทําแตความดีงาม
ทั้งกับตนเองและผูอื่น การตรงตอเวลา พูดอยางไรทําอยางนั้น
หลี่
ความมีระเบียบวินัย อยูในกรอบประเพณีอันดีงาม ความมีคารวะตอผูอื่น
การวางตนสุภาพออนโยน ตามควรแกฐานะของแตละบุคคล
อี้
การยึดหลักคุณธรรม ในการรับผิดชอบตอตนเองและตอผูอื่น เสียสละแม
แตชีวิต เพื่อผดุงความถูกตองไวชวยเหลือถวนหนา ไมนําพาตอความมีจน
หรือดีเลวของแตละบุคคล มีน้ําใจโดยไมเลือกที่รักมักที่ชัง
เหลียน
ความสันโดษ กระทําแตสิ่งที่ถูกตองดีงาม ยอมรับสภาพความเปนจริง
ไมอยากไดในสิ่งที่ไมควรไดซึ่งจะนําไปสูการทุจริต
โดยตองคํานึงถึงสิทธิหนาที่ และความรับผิดชอบ
ฉื่อ
ความมีหิริโอตตัปปะ
เหยิน
ความมีพรหมวิหารสี่ พรอมที่จะชวยเหลือไมวาคนหรือสัตว
ไมวามิตรหรือศัตรู
จื้อ
ความมีปญญาที่เห็นปญญา ความมีปญญาที่จะใชปญญาใหถูกตอง
ไมสันโดษในการแสวงหาคุณธรรมใหยิ่งๆ ขึ้นไป
ดวยมงคลธรรมชีวิตสิบขอนี้ ชาวจีนโบราณสวนมาก จึงเปนผูรูคุณ
คน แสดงปฏิการะ เมื่อมีโอกาส พอแมจึงชอบมีลูกหลานมากๆ เพราะได
ชื่นชมยินดี มีความสุขตอความกตัญูกตเวทีของลูกหลานที่มีตอพอแม
บรรพชน และความรักความเอื้ออาทรที่มีตอสายเลือดเดียวกัน ทําใหมี
ความสงบสุข อบอุนอยูในความรัก ความเมตตาการุณ ความสามัคคีเปนน้ํา
หนึ่งใจเดียวกัน ความเคารพเอาใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งผูรูเห็นก็ชื่นชมยินดี
เปนเยี่ยงอยางอันงดงามสืบตอกัน
๙คำที่พ่อสอน
1.ความเพียร การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน ดังข้อความที่ว่า ลูกต้องมีความกล้าที่จะแก้ไขตนเอง มีกำลังใจที่จะแก้ไขอย่างจริงจังไม่ท้อถอย มีความเพียรอย่างสม่ำเสมอ
2.ความพอดี จะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง เช่น พ่อได้สอนลูกว่าอย่าทำตัวเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หมั่นบริจาคเสียบ้าง เราต้องไม่อ่อนและแข็งจนเกินไป
3.ความรู้ตน ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัวการรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆได้โดยถูกต้องรวดเร็ว ดังข้อความที่ว่า ลูกต้องหาตนเองให้พบและแก้ไขให้ทันท่วงที
4.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมาก็จะต้องพยายามให้ ดังข้อความที่ว่า ให้หันมาเป็นแพทย์ดีกว่าเพราะการเป็นแพทย์นั้น นอกจากจะยึดเป็นอาชีพแล้วยังช่วยคนได้อีกด้วย
5.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ เช่น แม้ลูกจะมีความรู้ความสามารถเพียงใดก็อย่าทะนงตนว่าใครก็สู้ไม่ได้
6.พูดจริงทำจริง ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ ดังข้อความที่ว่า ไม่ว่าลูกจะไปไหนก่อนจะพูดอะไรให้ลูกนั้นคิดเสียก่อนว่าหากพูดไปแล้วลูกสามารถทำได้หรือเปล่า
7.หนังสือเป็นออมสิน หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมาหนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ท่านแซ่ข่งท่านได้เล่าเรียนวิชาโหราศาสตร์จาดตำรา ดั้งเดิม
8.ความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง ดังข้อความที่ว่า ธรรมชาตินั้นซื่อตรงยิ่งนักหากเราเอาอย่างธรรมชาติได้ จิตใจเราก็จะผสมผสานกับธรรมชาติได้
9.การเอาชนะใจตน เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดีเป็นความถูกต้องและเป็นธรรมถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ให้ได้จริงๆให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ดังข้อความที่ว่า การตั้งปณิธานอันแน่วแน่ที่จะแก้ไขความผิดพลาด ตนเองก็ดี จะช่วยกระชับจิตใจของลูกไม่ให้โลเล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น